เด็กหญิงอายุ 5 เดือนมีไข้เล็กน้อยเป็นเวลาสามวัน ไอและมีน้ำมูกไหล และในวันที่ 4 เธอก็มีอาการช็อกจากไข้เลือดออกขั้นรุนแรง และต้องถูกย้ายจากบินห์ถ่วนไปยังนครโฮจิมินห์เกือบ 200 กม.
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน นพ.เหงียน มินห์ เตียน รองผู้อำนวยการโรงพยาบาลเด็กประจำเมือง กล่าวว่า ทารกถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลในพื้นที่ โดยมีเลือดออกตามแขนขาและหน้าท้อง และความดันโลหิตลดลงอย่างเห็นได้ชัด การทดสอบพบว่าความจุของเกล็ดเลือดเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าของปกติ เกล็ดเลือดลดลงมากกว่า 10 เท่า และเอนไซม์ในตับเพิ่มขึ้น
ทารกได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นโรคไข้เลือดออกอย่างรุนแรง นี่เป็นภาวะแทรกซ้อนที่เป็นอันตราย หากไม่ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงที ผู้ป่วยอาจประสบความล้มเหลวของอวัยวะหลายส่วนและเสียชีวิตได้ แพทย์รักษาผู้ป่วยอย่างจริงจังตามระเบียบการ แต่ทารกยังเด็กเกินไปและอวบอ้วน (7.2 กก.) และเป็นการยากที่จะสร้างสายส่ง แพทย์จึงย้ายโรงพยาบาลไปที่โฮจิมินห์ซิตี้
เมื่อเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาล เด็กมีสีซีดและวัดความดันโลหิตได้ยาก แพทย์แทงกระดูกหน้าแข้งส่วนบนที่ขาเพื่อฉีดของเหลวป้องกันการกระแทกและสารละลายอิเล็กโทรไลต์ จากนั้นจึงเปลี่ยนเป็นยาป้องกันการกระแทกที่มีฤทธิ์แรงกว่า ซึ่งเป็นสารละลายโพลีเมอร์
ทารกยังได้รับสายฉีดเข้าเส้นเลือดดำสำหรับการถ่ายเลือดและผลิตภัณฑ์จากเลือด และการรักษาตับและระบบทางเดินหายใจ หลังจากผ่านไป 48 ชั่วโมง อาการของเด็กจะค่อยๆ ดีขึ้นและตื่นตัว
“เมื่อทารกเกิดภาวะช็อก เป็นเรื่องยากมากที่จะสร้างสายฉีดเข้าเส้นเลือดดำ การฉีดไขกระดูกเพื่อสร้างสายฉีดเข้าเส้นเลือดดำถือเป็นขั้นตอนฉุกเฉินที่จำเป็นในการช่วยชีวิตเด็ก” ดร.เทียนกล่าว
จากข้อมูลของแพทย์ เทียน ไข้เลือดออกสามารถเกิดกับทารกได้ บางรายอาจมีอาการผิดปกติ เช่น มีไข้เล็กน้อยปานกลาง ไอเป็นพักๆ น้ำมูกไหล จาม หรือท้องร่วง อาเจียน... อาการนี้สามารถเข้าใจผิดได้ง่ายว่าเป็นโรคระบบทางเดินหายใจ ระบบย่อยอาหาร โรคติดเชื้อ หรือโรคมือ เท้า ปาก...จึงจำเป็นต้องพาเด็กไปสถานพยาบาลที่มีแผนกกุมารเวชศาสตร์ตรวจและทดสอบ เพื่อวินิจฉัยโรคได้แม่นยำ รักษาได้ทันท่วงที
เด็กไม่สามารถพูดหรือแสดงอาการได้ ผู้ปกครองจึงต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิด “ช่วงปลอดไข้ประมาณวันที่ 4-5 ของการเกิดโรค ถือเป็นช่วงเวลาที่อันตรายที่สุดของโรคไข้เลือดออก” ดร.เทียนแนะนำ
ผู้ป่วยประมาณ 10-20% ไม่มีไข้ แต่มีอาการเหนื่อยมากขึ้น มีผื่นที่มือและเท้า ปวดท้องด้านขวา คลื่นไส้ และในกรณีที่รุนแรงมากขึ้น เลือดออกฟัน เลือดกำเดาไหล อาเจียนเป็นเลือด อุจจาระเป็นเลือด มือเย็น และเท้า
* ที่มา: https://vnexpress.net/be-5-thang-soc-sot-xuat-huyet-sau-3-ngay-sot-nhe-4673160.html